EP3 : ค่าซ่อมบำรุง S-Class W220 ใน 1 ปี สูญเสียกันไปเท่าไหร่

พื้นที่โฆษณา : ขาย Mercedes-Benz หน้าธนู รุ่น E200 Kompressor รุ่น W211 สภาพดี ซ่อมมาเกือบหมดแล้ว พร้อมใช้งาน

ผ่านไป 1 ปี กับ 3 เดือน หลายท่านคงอยากทราบว่า ค่าใช้จ่ายจะสูงอย่างที่เขาเล่ากันไหม คำตอบคือ จริง!! แต่ผมขอแก้ตัวแทนรถรุ่นนี้ก่อนเลยครับ สาเหตุที่ค่าใช้จ่ายที่สูงมาจากหลายสาเหตุ

  • เลือกคันผิด ณ เวลานั้นยังดูรถไม่เก่งพอ (ถือว่าเป็นรถครูชั้นดีทีเดียวครับ)
  • รถมือสอง ผมว่าปีแรกคือปีแห่งการเก็บงาน ค่าใช้จ่ายอาจจะดูสูง แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ เฉลี่ยต่อปี ก็จะถูกลง เป็นเรื่องปกติของรถมือสองครับ
  • เคยถามเพื่อนที่ใช้รุ่นเดียวกัน บ้างก็โดนหนักไม่แพ้กัน บ้างก็บอกเฉลี่ยค่าใช้จ่ายปีละ 30,000 บาท

เริ่มต้นกันเลยดีกว่าครับ ว่าตั้งแต่ได้รับรถมา จนปัจจุบันเสียหายกันไปเท่าไหร่

  • 500km 1 เดือน 
    โช้คถุงลม หน้าขวารั่ว 12,000 บาท
    เรือนไมล์ดับ 4,500 บาท
  • 1,600km 2 เดือน
    Overhaul เกียร์ / ปะเก็นท้ายเครื่อง (น้ำมันเครื่องรั่วเยอะ) / ปะเก็นฝาวาล์ว
    ค่าเสียหายประมาณ 32,000 บาท
  • 3,400km 4 เดือน
    โช้คถุงลม หลังขวารั่ว ตัดสินใจเปลี่ยน Bilstien OEM 2 ข้าง ต้นละ 18,000 ค่าแรงเปลี่ยน 2,000 บาท (รวม 38,000 บาท)
    กุญแจน้ำเต้าเสีย เปลี่ยนแผง กรอบเดิม 3,500 บาท
  • 4,100km 7 เดือน
    รำคาญเสียงช่วงล่าง เปลี่ยนอู่ใหม่ ซ่อมไม่จบ
    ปีกนกบน คู่ละ 16,000 เสียงยังดังเหมือนเดิม
    (สำหรับรายการนี้ ค่าอะไหล่ร้านแถววัดโสมจริง ๆ ราคาอยู่คู่ละ 9,000 บาท เท่านั้น ซึ่งเป็นชิ้นส่วนช่วงล่างที่แพงที่สุด)
  • 10,000km 1 ปี
    ซ่อมหลายรายการ รวมถึงช่วงล่างที่ทนใช้แบบเสียงดังมานาน
    – ไดชาร์จ มือสอง 4,000 บาท
    – แอร์ ด้านหลังขวา ลมร้อนออก = วาล์วตู้แอร์หลัง มือสอง 2,000 บาท
    – ทำแอร์ จึงต้องแวกซ์น้ำยา และเติมใหม่ ค่าน้ำยา 1,500 บาท
    – เสียงช่วงล่างเกิดจากกันโคลงเสีย ของใหม่ 7,500 บาท
    – ลูกหมากกันโคลง 1,900 บาท
    – ยอยพวงมาลัย 1,500 บาท
    – ปีกนกล่าง 7,200 บาท
    – ค่าแรง 3,500 บาท
    พิเศษ โช้คหน้าขวาเจ้าเก่า มีปัญหาแกนโช้คโยกได้ จึงต้องเปลี่ยน จำใจใช้มือสองชั่วคราว 8,000 บาท (สำหรับรายการนี้ เดิมผมสั่งเป็นโช้ค rebuilt หรือโช้คซ่อม ซึ่งมีประกัน 1 ปี แต่พอไปเคลมกับอู่ที่เคยใช้บริการ กลับบอกว่าเป็นโช้คมือสอง ไม่มีประกัน)

    รวมค่าเสียหาย 37,100 บาท

  • 10,200km 1 ปี 1 เดือน
    ผ้าเบรคหมด + จานเบรคบาง (สำหรับรุ่นนี้ เท่าที่เคยหาข้อมูล เปลี่ยนผ้าเบรค 2 ชุด จะต้องเปลี่ยนจานเบรค 1 ชุด เพราะค่อนข้างกินจานเบรค)
    รายการอะไหล่ทั้งหมด ซื้อจากร้านอะไหล่แถววัดโสม ยี่ห้อเป็น TRW
    – จานเบรคหน้า 4,400 บาท
    – จานเบรคหลัง 2,600 บาท
    – ผ้าเบรคหน้า 1,500 บาท
    – ผ้าเบรคหลัง 1,250 บาท
    – สายเซนเซอร์เตือนผ้าเบรคหมด 240 บาท
    – ค่าแรงเปลี่ยน 800 บาท
    รวมยอด 10,790 บาท

ปัจจุบัน 12,000km 1 ปี 3 เดือน ยังไม่มีรายการซ่อมเพิ่มเติม คาดการณ์ว่าเร็วๆนี้ ที่ต้องเสียเงินเพิ่ม ก็จะมีโช้คถุงลมคู่หน้า ซึ่งยางกันฝุ่นขาดเรียบร้อยแล้ว

รวมค่าเสียหายทั้งหมด 153,890 บาท ซึ่งถือว่าสูงมาก ค่อนข้างไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงกลัวรุ่นนี้กัน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็คงไม่เลือกรุ่นนี้ ซึ่งมาจากโช้คถุงลมเป็นหลัก เป็นเงินกว่า 58,000 บาท และไม่จบอยู่แค่นี้แน่นอน 

แต่ต้องอย่าลืมว่า รถอายุมากแล้ว เกือบจะ 20 ปี รถมีฟังก์ชั่นเยอะ มีอาการเสียหลายส่วน เป็นเรื่องไม่แปลกอะไร ขอเพียงแค่ซ่อมจบ ไม่กลับมาเสียจุดเดิม สำหรับผมถือว่าโอเค เมื่อเทียบกับราคารถที่ได้มา

ส่วนจะคุ้มค่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับบุคคล เพราะผู้ใช้งานรถ W220 มือสองหลายท่าน มีความคิดคล้ายคลึงกับผู้เขียนว่า ด้วยราคารถที่ถูกมาก จะซ่อมแพงหน่อย ก็ถือว่าคุ้มค่า ในขณะที่บางท่านอาจจะไม่เห็นด้วย ขึ้นอยู่กับบุคคลจริง ๆ ครับ ทั้งนี้ อีก 1 ปีข้างหน้า ผมจะมาอัพเดตอีกที ว่าค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง หลังจากซ่อมหนักครบไปแล้ว จะมีอะไรเพิ่มเติมอีกครับ

ย้อนกลับไปดูบทความเก่า

EP1 : เสี่ยงดวงกันไหม กับ Mercedes Benz S-Class

EP2 : ซื้อ Benz S-Class W220 จะต้องดูอะไรเป็นพิเศษ

EP4 : หมัดต่อหมัด W220 S280 vs W211 E200 Kom หา(เรื่อง)ซื้อคันไหนมาใช้ดีกว่า

Posted in รถยนต์ มอไซค์ By Hammer.

12 Comments

  1. โอ้โห กำลังรออยู่เลยครับ ค่าซ่อมใช้ได้เลยครับ แต่ช่วงนี้ราคารถลงไปมาก น่าสนใจ คิดว่าต้นปีจะหามาใช้สักคัน คงต้องขอความรู้ด้วยครับ

  2. เล็ง ๆ อยู่เหมือนกันครับ
    ได้อ่านแล้วเลยตัดสินใจง่ายเลยครับ
    เดี๋ยวหารถถูกใจได้จัดเลยครับ

  3. ขอบคุณมากครับ ผมใช้อยู่ s280 ปี 2004 ซ่อมยังไม่เอยะอาจเพราะใช้น้อยครับ
    ขอบถามหน่อยครับ ถ้าจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแบบไม่ต้องดีมากควรใช้อะไรดีครับ

    • ของผมเน้นถูกเลยครับ Shell Helix HX7 high mileage
      น้ำมันเครื่องเป็นอะไรที่ไม่เห็นผล ไม่พังทันที แต่ระยะยาวก็มีผลครับ แต่มันตอบไม่ได้หรอก ว่าจะพัง หรือใช้งานได้ยาวเพราะอายุยืนเพราะน้ำมันเครื่อง แต่มันยังมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง เช่น พฤติกรรมการขับขี่
      ดังนั้นต้องตัดสินใจด้วยตัวเองครับ ว่าจะเน้นแพง หรือเน้นถูก

      ปล.เท่าที่หาข้อมูล ไม่ค่อยมีใครใช้น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์กับ Benz กันครับ ส่วนใหญ่ก็ไปสังเคราะห์ 100% กันหมด ดังนั้นเป็นความเสี่ยงของท่านเองนะครับ รถรุ่นใหม่ๆนี่ยิ่งเสี่ยงเลย

  4. ผมใช้อยู่ครับ 5 ปีแล้ว ตอนซื้อมาครั้งแรง W220 280L พีรันเน่อร์ ตัวท็อบครับ 700,000 บาท ออกมาแล้วเช้า อู่นอกเซ็ดทั่งตัวรถครับ ช่วงล่างระบบไฟฟ้า ขอแนะนำอู่ก่อนเลยครับถูกมากๆๆ ครับไม่บวกอะไหล่่ครับ สิ่งที่ผมต้องซ่อมหลังจากเช็คแล้ว
    1. ประเก็นฝาวาว 2500
    2. ซีลท้ายเครื่อง 1800
    3. ปั้มลมออโต้เมติก 8300
    4. วาวกระจายลม 12800
    5. สายลม 600
    6. ลูกหมากปรับระดับโช็ด 3อัน 4500
    7. ปีกนกล่าง 8000
    8. ปีกนกบน 9000
    9. น้ำมันเครื่อง 4500
    10. น้ำมันเกียร์ 7200
    11. กรองเครื่อง/อากาศ 2500
    12. ขัดสีเคลือบสี 3500
    รวมค่าแรง 18000
    ยอดสุทธิ์ที่ชำระ 83200

    ราคา 700,000 ค่าซ่อม 83200 รวม 783200 บาท

    ทำประกันชั้น 2 + แบบเพิ่มวงเงินการคุ้มครอง 11900 บาทเกิดเหตุ ซ่อม 200,000 รถหาย ไฟไหม้ 800000 บาท รวมยอดชำระแล้ว 783200+11900 = 795100 บาท

    ผ่านมาแล้วหลายปียังไม่เคยซ่อมอะไรเลยครับ ได้แต่เปลี่ยนถายน้ำมันตามรอบครับ

    ใช้ดีมาก เกาะถนนยอดเยี่ยมนิ่มนวล ส่ดยอดรถจริงครับ

    • ขับดีจริงๆครับ ติดที่ซ่อมแพง + กินน้ำมันแค่นี้จริงๆครับ

      พอซ่อมครบๆ แล้ว ก็ไม่จุกจิกอย่างที่เขาลือกันครับ แต่ต้องกล้าจ่ายแต่แรก

    • อู่ซ่อมโช้คลม เบื้องต้นผมแนะนำให้ลองเข้าไปถามเพื่อนสมาชิก ใน facebook group MB Thai ดูนะครับ ปัจจุบันก็ถือว่าได้รับความนิยมอยู่พอสมควรครับ

      ปัจจุบันเห็นร้านขายอะไหล่ชุดซ่อม ชื่อร้าน mtec air suspension ครับ

  5. แอร์ ด้านหลังขวา ลมร้อนออก = วาล์วตู้แอร์หลัง มือสอง 2,000 บาท
    > ทำแอร์ จึงต้องแวกซ์น้ำยา และเติมใหม่ ค่าน้ำยา 1,500 บาท

    ขอทราบร้านหรือแนะนำได้ไหม
    มีอาการเดียวกันข้างต้น แต่ของผมที่มีเพิ่มเติมคือ แอร์หน้า ซ้าย/ขวา ลมออกน้อย

    • ผมทำอู่โกดังเบนซ์ พระราม 5 ครับ

      อาการไหน ๆ ส่วนใหญ่จะมาจบที่นี่หมด ตั้งแต่ใช้มา อู่นี้เก่งสุดแล้วครับ แต่ยังไม่ 100%

      • ขอบคุณครับ ตอนนี้ทำใช้ต่อมา 2 ปี ถึงเวลาน่าจะต้องฮอลเกียร์แล้วครับ
        เจ้าของกระทุ้ฮอลเกียร์ที่อู่โกดัง พระราม 5 ด้วยใ้ช่ไหมครับ

ส่งความเห็นที่ cleverham ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *